กลายเป็นภาพที่สร้างความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับการพบกันของ 2 นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่าง นักแสดงชื่อดัง ลีโอนาร์โด ดีคาปรีโอ และ เกรตา ธันเบิร์ก เด็กหญิงชาวสวีเดน วัย 16 ปี ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมเกรตาได้เดินทางมาที่ ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา
เพื่อรณรงค์และเคลื่อนไหวคุ้มครองสิ่งแวดล้อมโลก งานนี้ลีโอนาร์โดจึงได้พบ และมีโอกาสได้คุยกับเธอ จากนั้นจึงได้ถ่ายภาพร่วมกัน ลีโอนาร์โดลงรูปคู่กับเกรตาในอินสตาแกรมและเขียนว่า น้อยครั้งนักในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ที่เสียงของประชาชนจะได้รับการขยายในช่วงเวลาสำคัญ และในรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ แต่ตอนนี้เกรตา ธันเบิร์ก ได้กลายเป็นผู้นำของพวกเรา
ประวัติศาสตร์จะเป็นตัวตัดสินเรา สำหรับสิ่งที่เราทำในวันนี้ เพื่อช่วยยืนยันว่าคนรุ่นต่อไปในอนาคตสามารถมีความสุขไปกับโลกที่น่าอยู่ เช่นเดียวกับที่เราได้รับ
ผมหวังว่าข้อความของเกรตา จะทำให้ผู้นำระดับโลกตื่นตัวขึ้นในทุกๆ ที่ เพราะเวลาในการเพิกเฉยนั้นสิ้นสุดลงแล้ว เป็นเพราะเกรตา และนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ ในทุกๆ ที่ ทำให้ผมมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ใช้เวลากับเกรตา เธอและผมได้ให้คำสัญญาว่าจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ด้วยความหวังที่จะรักษาอนาคตที่สดใสกว่าสำหรับโลกของเรา
ดิฉันเชื่อว่าในอนาคตจะมีการประยุกต์ใช้โดรนในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นพาหนะรับส่งผู้โดยสาร หรือแม้แต่ส่งของได้รวดเร็วขึ้น
เลยอยากถือโอกาสมาเล่าสู่กันฟังเพื่อในอนาคตเราจะได้รับมือกับเทคโนโลยีใหม่ๆที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันได้ค่ะ”
กองกำลังตำรวจนิวเซาต์เวลล์ ของประเทศออสเตรเลีย รายงานการจับกุมคนร้าย 4 คน จากการนำเข้า methylamphetamine (เมธิลแอมเฟตามีน) หรือยาไอซ์ 400 กิโลกรัมซึ่งถูกตรวจพบโดย Australian Border Force (ABF) ที่ซ่อนอยู่ในขวดศรีราชาที่นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา
ผลการจับกุมสืบเนื่องมาจากวันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2562 เจ้าหน้าที่ของ ABF จับตาดูการขนส่งสินค้าทางอากาศที่เพิ่งมาถึงที่สถานีขนส่งสินค้าซิดนีย์ ต้นทางจากสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบพิรุธในกล่องสินค้าซึ่งบรรจุขวดซอสพริกศรีราชา เมื่อเปิดดูพบว่ามีซอสพริกศรีราชา 768 ขวด เมื่อตรวจสอบวิเคราะห์ทางนิติวิทยาศาสตร์เบื้องต้น ก็ต้องตะลึง เพราะภายในขวดบรรจุเมธิลแอมเฟตามีนประมาณ 400 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 300 ล้านเหรียญดอลล่าห์ หรือประมาณ 9 พันล้านบาท
ไฟไหม้ปราสาทชูริ บนเกาะโอกินาว่า ของญี่ปุ่น เก่าแก่กว่า 600 ปี วายวอด
ไฟไหม้ปราสาทชูริ – ryukyushimpo.jpรายงานความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของโบราณสถานญี่ปุ่น เกิดเหตุเพลิงไหม้ปราสาทชูริ จังหวัดโอกินาว่าวันที่ 31 ในตอนเช้ามืด เวลา 2:41 น. โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นหน้าด้านของหมู่ปราสาท ศาลเจ้าหลักและศาลเจ้าทางทิศเหนือเถูกเผาไหม้จนเกือบหมด ก่อนไฟจะกระจายลามไปยังอาคารอื่น ๆ ในปราสาท เช่น ศาลเจ้าทางทิศใต้ ทางการต้องระดมรถดับเพลิงกว่า 40 คันมาช่วยดับอัคคีภัยครั้งนี้
ตำรวจประจำจังหวัด ได้เรียกร้องให้ผู้อาศัยในเมืองนาฮะ ใกล้เคียงปราสาทชูริ อพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าประกายไฟจะกระเด็นลามไปยังบ้านเรือนในรัศมี โดยทางการได้ จัดตั้งศูนย์พักพิงที่โรงเรียนประถมศึกษา Jonan Shuri Public Hall และ Ishizuchi Public Hall
ต่อมาเวลาประมาณ 4:30 น. รอบ ๆ ปราสาทชูริเสียงเหมือนเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น และศาลเจ้าหลักซึ่งดูเหมือนจะเป็นแหล่งกำเนิดของไฟไหม้อย่างรุนแรงมีควันเพิ่มขึ้น ประกายไฟยังลอยไปอยู่เหนือแม่น้ำชิตะ ในเมืองนะฮะซึ่งอยู่ห่างออกไปมากกว่า 1 กม. และผลกระทบก็แพร่กระจายไปทั่วบริเวณกว้าง
ล่าสุดช่วงเช้าตรู่เวลาประมาณ 7.15 น. มีรายงานว่าสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่กองเพลิงที่ลุกไหม้ยาวนานหลายชั่วโมงส่งผลให้ตัวปราสาทเสียหายเกือบหมด
ปราสาทชูริเป็นปราสาทกลางของราชอาณาจักรริวกิวประมาณ 450 ปี และเป็นศูนย์กลางของการเมืองและวัฒนธรรม ปราสาทชูริถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติในปี 1925 ในฐานะ “ศาลเจ้าโอกินาว่า” แต่ถูกทำลายในการสู้รบที่โอกินาว่าเมื่อปี 1945 หลังสงครามปราสาทกลายเป็นวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย ริวกิวส์ แต่หลังจากการย้ายมหาวิทยาลัยได้มีการดำเนินโครงการฟื้นฟูและในปี 1992 ได้รับการบูรณะให้เป็นอุทยานแห่งชาติในวันครบรอบ 20 ปีของการกลับไปยังแผ่นดินใหญ่
ในเดือนธันวาคมปี 2000 ซากปรักหักพังปราสาทชูริได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกครั้งที่ 11 ในญี่ปุ่นในชื่อ“ Gusuku และกลุ่มมรดกที่เกี่ยวข้องของราชอาณาจักรริวกิว” ในปีเดียวกันมีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์เพื่อสังคม “คิวชู / โอกินาว่า” นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากญี่ปุ่นและต่างประเทศกำลังเดินทางไปที่โอกินาวาเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป