Pornhub ไล่ลบวิดีโอ 10 ล้านคลิป หลังเสียแรงหนุนจาก บัตรเครดิต

Pornhub ไล่ลบวิดีโอ 10 ล้านคลิป หลังเสียแรงหนุนจาก บัตรเครดิต

Pornhub เว็บไซต์สื่อลามกชื่อดังนั้นได้มีการดำเนินการไล่ลบ วิดีโอ ต่าง ๆ เป็นจำนวน 10 ล้านกว่าวิดีโอ หลังจากที่บรรดาบริษัท บัตรเครดิต / สถาบันการเงินได้มีการดำเนินตัดการสนับสนุนด้านบริการการเงินให้แก่ทางเว็บไซต์ และบริษัทที่มีความเกี่ยวข้อง หลังจากการเปิดเผยข้อมูลที่ว่าทาง Pornhub ได้มีสื่อลามก วิดีโอ 

ที่ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากภายในเว็บไซต์ ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์เป็นอย่างหนัก ตามมาด้วยการลงดาบกับทางเว็บไซต์ และบริษัทที่เกี่ยวข้อง ที่ร้ายแรงสุดก็คือการที่บรรดาบริษัททางการเงิน / บัตรเครดิต ได้มีการดำเนินการยุติการดำเนินการทางการเงินให้แก่ทางเว็บไซต์ และบริษัทในเครือ

ส่งผลให้ในวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ ทาง Pornhub ได้มีการดำเนินการลบล้างวิดีโอต่าง ๆ ที่ถูกอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์โดยผู้ใช้งานที่ไม่ได้รับการยืนยันตัวเป็นจำนวน 10 กว่าล้านวิดีโอ ส่งผลให้ในตอนนี้นั้น วิดีโอที่เหลืออยู่ในเว็บไซต์จะเป็นของผู้หุ้นส่วนทางเนื้อหา และผู้ผลิตสื่อที่ได้รับการรับรองจากทางเว็บไซต์ หรือโครงการต่าง ๆ ของเว็บไซต์เท่านั้น

ทาเว็บไซต์ได้กล่าวว่า “แนวทางนี้ก็ได้หมายความว่าทุกเนื้อหาภายในเว็บไซต์ Pornhub นั้นจะต้องมาจากผู้อัพโหลดที่ได้รับการรองรับแล้วเท่านั้น ซึ่งก็เป็นข้อแม้ที่บรรดาแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Tiktok, Youtube, Snapchat และ Twitter เองยังไม่ได้มีการนำมาใช้อย่างเป็นทางการ”

จากการไล่ลบล้างดังกล่าวนั้น ทำให้วิดีโอประมาณ 10 กว่าล้านวิดีโอได้ถูกกำจัดออกไปจากเว็บไซต์ โดยในขณะนี้นั้น ถ้าคุณสามารถแวะเข้ายังเว็บไซต์นั้น ช่องแถบค้นหานั้นจะแสดงผลว่าทางเว็บได้มีวิดีโออยู่จำนวน 2.9 ล้านคลิปเท่านั้น ลดลงมาจากจำนวน 13.5 ล้านคลิปเมื่อสัปดาห์ก่อน

ซึ่งการดำเนินการ และการประกาศดังกล่าวนั้นก็มาจากกรณีการเผยแพร่ข้อมูลที่ว่า Pornhub ได้เป็นแหล่งเผยแพร่สื่อลามกอนาจารที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการข่มขื่น การกระทำอนาจารเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และอื่น ๆ ที่ผิดกฎหมาย ส่งให้มีกระแสวิจารณ์ในแง่ลบออกมาเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการที่สถานบันการเงินต่าง ๆ อย่าง Visa, Mastercard และ Discover ได้ยุติการสนับสนุนในการดำเนินการทางการเงินกับเว็บไซต์

โดย Pornhub เป็นเพียงแค่หนึ่งในบรรดาเว็บไซต์ลามกที่อยู่ในเครือของบริษัท MindGeek ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะมีการปรับใช้แนวทางแบบนี้กับเว็บไซต์อื่น ๆ ที่อยู่ในเครือเดียวกันหรือไม่ ก็ต้องติดตามข่าวกันต่อไป

คณะผู้เลือกตั้ง ลงเสียง โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ คนล่าสุด

คณะผู้เลือกตั้ง ได้ร่วม ลงเสียง โหวตให้นาย โจ ไบเดน ขึ้นเป็นประธานาธิบดี คนต่อไป ปิดประตูของ ทรัมป์ ที่จะเปลี่ยนผลการเลือกตั้ง โจ ไบเดน ชนะเลือกตั้ง – เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า คณะผู้เลือกตั้งสหรัฐฯ ได้ทำการลงคะแนนเสียงเลือกให้เป็น นาย โจ ไบเดน ให้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ถัดจากนาย โดนัลด์ ทรัมป์

โดยคณะผู้เลือกตั้งได้ลงคะแนนเสียงให้ไบเดน 306 เสียงต่อ นาย ทรัมป์ 232 เสียง ซึ่งคะแนนที่นายไบเดน ได้รับถือว่ามากกว่าคะแนนเสียงขั้นต่ำ หรือ 270 เสียง

การคะแนนเสียงโดยคณะเลือกตั้ง เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นทุกปี อย่างไรก็ตามในปีนี้ การลงคะแนนเสียงของคณะผู้เลือกตั้ง ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ เนื่องจากนาย ทรัมป์ ได้ออกมากล่าวหาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใสสะอาด และ ต้องการเปลี่ยนผลการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตามจากหน้า ประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ไม่เคยมีการเปลี่ยนผลเลือกตั้ง ด้วยวิธีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้นายทรัมป์ เคยประกาศว่าจะยอมออกจากตำแหน่ง หากคณะเลือกตั้งโหวตนาย ไบเดน

ด้าน นาย ไบเดน ได้กล่าวว่า ประชาธิปไตย เป็นฝ่ายชนะในครั้งนี้ และเปลวเพลิงแห่งประชาธิปไตยได้โชติช่วงในประเทศสหรัฐอเมริกามาหลายปีแล้ว และไม่มีอะไรที่จะสามารถดับเพลิงดวงนี้ได้

โดยนาย ไบเดน จะเข้าสาบานรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ที่จะถึงนี้

ทางการ อังกฤษ ประกาศ ผ่อนเกณฑ์ บริจาคเลือด อนุญาตให้ กลุ่มเพศทางเลือก ที่ตรงตามข้อกำหนดสามารถบริจาคเลือดได้

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการสหราชอาณาจักร ได้ผ่อนเกณฑ์ในการบริจาคเลือกสำหรับกับคนเพศทางเลือก ด้วยการอนุญาตให้กลุ่มเพศทางเลือกที่มีคู่นอนเพียงแค่คนเดียว และอยู่กับคู่นอนของตนมานานกว่า 3 เดือน สามารถบริจาคเลือดได้

อย่างไรก็ตามผู้บริจาคเลือกที่เพิ่งเปลี่ยนคู่นอน หรือมีคู่นอนมากกว่า 1 คน ยังคงสามารถบริจาคเลือกได้ตามเดิม ตราบใดที่ผู้บริจาคไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ทางรูทวาร

ก่อนหน้านี้ทางการสหราชอาณาจักรได้ห้ามไม่ให้ ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ในช่วง 3 เดือน บริจาคทั้งหมด โดยไม่มีข้อแม้ โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มีจุดประสงค์ เพื่อช่วยให้กลุ่มคนดังกล่าวสามารถบริจาคเลือกได้มากขึ้น

ทางการสหราชอาณาจักร กล่าวว่า พวกเขาตั้งเป้าที่จะเป็นประเทศแรกๆของโลกที่เลือกผู้บริจาคเลือกแบบตามแนวความเสี่ยงรายบุคคล เนื่องจากพวกเขารับรู้ว่า ทุกเพศมีความเสี่ยงในการเป็นพาหะนำโรคเท่าๆกัน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป